2 กรกฎาคม 2567 เฉลิมฉลองครบรอบ 91 ปี โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งได้จัดพิธีทางศาสนาขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานในพิธีสงฆ์ เวลา 08.00 น. และเป็นประธานในพิธีบวงสรวง เวลา 09.09 น. ต่อด้วยการแสดงรำบวงสรวง ชุด “เบญจหนุมานประทานพร” โดยคณะนักแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งหนุมานยอดทหารเอกพระราม ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งโขนศาลาเฉลิมกรุง ได้สำแดงฤทธิ์นิมิตร่างตนทั้งห้า คือ ร่างขุนทหาร ร่างสังขวานร ร่างครองเมือง ร่างทรงเครื่องอินทรชิต และร่างออกบวช มาร่วมฉลองวันมงคลโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง โดยประธานในพิธีได้มอบทุน กองทุนนาฏดุริยางคศิลปไทย “มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง” จำนวน 1 ทุน ให้แก่ วัชรมณฑ์ อรัณยะนาค ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีไทย(เครื่องสาย) วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
จากนั้น นายสุประวัติ ปัทมสูต ประธานมูลนิธิสวัสดิการนักแสดง พร้อมด้วยกรรมการมูลนิธิสวัสดิการนักแสดง มอบทุนช่วยเหลือนักแสดงอาวุโส “มูลนิธิสวัสดิการนักแสดง” ประจำปี 2567 จำนวน 6 ทุน ให้แก่ สุรพล โทณะวณิก(ศิลปินแห่งชาติ), ผู้แทน มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา(ศิลปินแห่งชาติ), อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา, น้ำเงิน บุญหนัก, กานดา นามแย้มแป้น และ ผู้แทนนายชูศักดิ์ สุธีรธรรม
โดยในวันนี้ได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติ นักร้อง นักแสดง ผู้สนับสนุน และสื่อมวลชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ได้กลับมารวมตัวกันที่ศาลาเฉลิมกรุงโรงมหรสพหลวง "แห่งแรกของประเทศไทย" แห่งนี้
ศาลาเฉลิมกรุง” เป็นโรงมหรสพหลวงแห่งแรกของประเทศไทย ในโอกาสฉลองพระนครครบ 150 ปี พระองค์ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์กว่า 9 ล้านบาท เป็นทุนในการจัดสร้างโรงมหรสพขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศ แม้เวลาจะผ่านมายาวนานถึง 91 ปี โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุงแห่งนี้ยังคงความโดดเด่นเป็นสง่า เป็นโบราณสถานที่สำคัญในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกเฉลิมกรุง ด้วยเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น เต็มไปด้วยเรื่องราว เรื่องเล่า ร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ และความผูกพันกับชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ดำเนินการจัดการแสดงครบทุกรูปแบบ ทั้งฉายภาพยนตร์ โขน ละครและดนตรี เป็นศูนย์รวมของผู้เกี่ยวข้องในวงการบันเทิง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นศูนย์กลางการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงประจำชาติของไทย สมดังพระราชปณิธานของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน